ผมนั่งดูฟุตบอลสองคู่ เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ และ แมนฯยูฯ กับสเปอร์ส ด้วยความเคารพครับ…ผมดูเกมที่แอนฟิลด์ เป็นหลัก

ส่วนที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ดูเพื่อพอให้เห็นอะไรบ้างแค่ 45 นาทีแรก จึงไม่ได้โฟกัส นึกแล้วก็อยากโวยวายใส่ Amazon ที่คนอเมริกันเรียก

แอมะซอน ได้สิทธิ์ streaming live พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์

หรือให้โวยวายใส่พรีเมียร์ลีกดีครับ 5555 จัดโปรแกรมชนกันแบบนี้ได้ไงเนอะ ความจริงเขาก็ไม่รู้หรอกว่า โชเซ มูรินโญ จะมาคุมสเปอร์ส

แต่ความจริงชั่วโมงนี้ แมนฯยูฯ เตะ สเปอร์ส มันก็ไม่ต่าง ลิเวอร์พูล-เอฟเวอร์ตัน

คนแก่นะครับ…บนตามเรื่องตามราว ถึงแก่แต่ก็เก๋าและกระดูกขัดมัน ไม่แก่กาอาละเล่ เชื่อเถอะครับ…ไม่ว่าคุณจะออกแบบกติกาอะไรแบบไหน

ฟุตบอลมันมีเหตุผลในการได้และเสียประตู

มีเหตุผลในการชนะและแพ้ มีเหตุผลในการคว้าแชมป์และพลาดแชมป์ ดังนั้นเรื่องฟุตบอลมันจึงมีคำตอบให้ “ง่าย” ขึ้นกับว่าคนนั้นจะ “ยอมรับ”

มันหรือไม่

เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ เที่ยวที่ 234

เป็นเที่ยวที่สถานการณ์ของทอฟฟี และ มาร์โก ซิลวา ย่ำแย่ 14 คะแนนจาก 14 เกม จวนอยู่เจียนไป แต้มห่างท้ายตาราง 2 แต้ม

แถมตัวเลขสถิติ

ที่เคยชนะหงส์แดงในแอนฟิลด์ล่าสุดคือปี 1999 บุกชนะ 1-0 แฟนทอฟฟี จำได้มั้ยใครยิง??? ประตูชัย จากนั้นมา เสมอ 9 แพ้ 10

นัดนี่ก็ครบ20 ปีพอดี

ตรงกันข้ามกับเจเค ถ้าชนะนี้คือเกมที่100 ของเขากับหงส์ บวกสถิติไม่แพ้ใครเป็น 32 เกม ดีกว่าโค้ชทุกคนที่คุมลิเวอร์พูล ก่อนลง

สนามสถิติเท่ากับ

เซอร์ เคนนี ดัลกลิช ที่ 31 นัดในลีก นายใหญ่หงส์แดงถึงกับลั่นปากว่า….เกมแบบนี้มันอันตราย
พวกเสือลำบาก ….คล้ายกับบ้านเราคือหมาจนตรอก จะสู้ยิบตา

นั่นคือความคิดก่อนเกมของเจเค ที่เตือนสติทุกคน เขาอยู่ในวงการฟุตบอลและทำงานกับฟุตบอลมานานย่อมรู้อะไรเป็นอะไร

1 เชิงแทกติก เจเค โรเตชั่น

    ชัดเจน…หมุนนักเตะใช้งาน มิลเนอร์ และ ลัลลานา กลาง ถอยจีนี เล่นเกมรับ ข้างหน้า ชาคิรี และ โอริกิ ลงก่อน ซาลาห์และ

ฟีร์มีโน นอกนั้นเหมือนเดิม เปลี่ยน 4 คนเลย ทั้งที่เป็น ดาร์บี้ แมตช์ น่าจะมั่นใจในวิธีการเล่นตัวเอง
แต่เหตุผลหลัก น่าจะเป็นโปรแกรม ที่อัดแน่น นั่นละครับ

    2ทอฟฟี ใช้ระบบ 3-4-3

    แบ็กโฟร์ ซิเดเบ วิงแบกทางขวา ทางซ้าย ดีญ เซนเตอร์สามคนเลือก มีนา,โฮลเกต และคีน กลาง ทอม เดวิส กับ กิลฟี ตัวทำ

สามคน เป็น อีโวบี, ดอม และ ริชาร์ลิซอน ปัญหาของทอฟฟี คือการหาทางเข้าแดนสามหงส์แดง ซึ่งทำไม่ค่อยได้
แดนกลางครองบอลไม่ได้ เลยทำให้บุกยาก

 3 เกมรุก ทำเร็ว “น้อยแต่มาก” คมจัด

    สองลูกในช่วง 17 นาทีแรกคือโจมตีเร็วเล่นบอลน้อยจังหวะ แน่นอนประตูแรกหงส์ได้จากจังหวะสวนกลับ ลัลลานา ได้บอลหน้าเ

ขตโทษตัวเอง ให้ มาเน

ก่อนที่ มาเน ไหลให้ โอริกิ แตะบอลหลอก พิคฟอร์ดจากระยะ 18 หลา เดี่ยวเข้าไปยิง 1-0 ง่ายดายมาก ลูกนี้ ประตูที่สองจา เทรนต์

วางบอลยาวในแดนให้ มาเน ถึงหน้าเขตโทษ ก่อนไหลเข้าช่องให้ ชาคิรี หลุดเข้าไปยิงง่ายๆ 2-0

ลูก 3-1 เล่นสองจังหวะ ลอฟเรน วางยาวจากแดนหลัง โอริกิ ดึงบอลลงแล้วแป แสกหน้า พิคฟอร์ด สร้างโอกาสสี่ครั้ง ยิงสามลูก

ถ้าดูจากสามสี่ประตูที่ได้ เล่นบอลน้อยจังหวะแต่แม่นและจบได้คม

    ประตูแรกสามคน สามพาส ..ลัลลานา, มาเน จบที่ โอริกิ
ประตูที่สอง สามคน สามพาส….เทรนต์, มาเน จบที่ ชาคิรี
ประตูที่สาม สองคน สองพาส …..ลอฟเรน เปิดยาวจบที่ โอริกิ
ประตูที่สี่ สองคน สองพาส …. มาเน เล่นกับเทรนต์ ก่อนให้ มาเน ยิงเข้าไป
ครึ่งแรกบุกยิง 5 ครั้งได้ 4 ลูก
ทอฟฟี บุกยิง 8 ครั้งได้ สองลูก
ที่น่าสนใจคือ….ทั้งเกมยิงเข้ากรอบ 5 ครั้ง ได้ 5 ประตู

  4 เกมรับ มีปัญหา

    เจเค คงปฏิเสธ ไม่ได้ว่าเกมรับปีนี้มีปัญหามาก ทั้งเชฟเกมรับ การป้องกันส่วนตัวนักเตะที่พลาดง่ายๆ ประตู 2-1 เป็นเพราะ เดยั

น ลอฟเรน พลาด ชัดเจน ปล่อยให้ คีน เซนเตอร์แบกที่ไม่ยิงมา 20 เดือนหลุดเข้าไปยิง

มีหลายจังหวะที่ได้ยิงในเขตโทษ นี่คือการเสียประตูในกรอบโทษลูกที่ 11 ในซีซั่น อืม….ยังแก้ไม่ตก สำหรับเกมรับ คลีน ชีตสอง

เกมใน 15 นัด ไม่เสียประตูนอกบ้าน

เสียในแอนฟิลด์ ทุกนัดเลย….ประตูที่สอง ริชาร์ลิซอน ได้โหม่งโล่งๆ

เพราะ ลอฟเรน กับ ฟานไดจ์ ไม่ประกบคนเลย มาคนเดียวได้โหม่งโล่งๆ ปัญหาคือพอบอลเหนือกว่า นำขาด…สมาธิ ไม่โฟกัส

ลูก 4-2 หลุดจากด้านข้าง เหลือสามคน แถมเปิดเข้ามา ลอฟเรน กับ ฟานไดจ์ ไม่มีใครประกบ ริชาร์ลิซอน เลย

โหม่งง่าย เสียในเขตเป็นลูกที่ 12 นี่คือจุดที่คู่แข่งเห็นแล้ว การป้องกันในกรอบ 18 หลาของลิเวอร์พูล มีจุดบอดชัดเจน เสียง่าย….มาก

 5 ซินแคลร์….รู้แล้วยัง

    ฝากถึง เทรเวอร์ ซินแคลร์ อดีตปีกทีมชาติอังกฤษ อดีตนักเตะแมนฯซิตี้ ที่ลั่น ทวิตเหยียดแฟนหงส์ หลังจากถล่มเบิร์นลีย์

เละเทะว่า bin dippers we’re comin on you

อันหมายความว่า พวกคุ้ยขยะกิน พวกเรากำลังไล่ตามแกอยู่ bin dippers คือแสลงที่กลุ่มคนเมืองแมนเชสเตอร์ เรียกคนเมือง

ลิเวอร์พูล

ตามการบอกเล่าของแฟนลิเวอร์พูลที่อังกฤษระบุว่าน่าจะช่วงปลายทศวรรตที่ 70 ต้นทศวรรต 80 หลังจากท่าเรือโดนปิดตัว

เมืองลิเวอร์พูลแทบร้าง คนตกงาน, เศรษฐกิจย่ำแย่อย่างหนัก…นึกภาพออกนะครับ

กองเชียร์ฝั่งตรงกันข้ามเวลาเชียร์บอลก็มักออกลูกบลัฟ แรงๆแบบนี้ สมน้ำหน้าครับที่ โดนคนเข้าไปด่า จนต้องลบทวิตออก แต่คงไม่ทัน

โซเชียลเดี๋ยวนี้เข้าครอปเอาไว้เป็นหลักฐาน

กลับตัวก็ไม่ทันแล้ว…จะว่าไปตัวเองก็มาจากชนชั้นแรงงาน จบเกมนัดนี้ นึกขึ้นได้เลยขอส่งข้อความถึง ผมแท็กในทวิตเตอร์ไปยังหมอ

นี่เองเลย We are running off you with this win 11 points gap

    6 สถิติมากมาย

    *เจเค ชนะเกมที่ 100 ใน159 นัดของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
*ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ ใคร 32 นัดในลีก ตัวเลขที่ยอดเยี่ยมของเจเค ดีว่า เซอร์ เคนนี, บ๊อบ เพสลีย์ และบิล แชงค์ลีย์
*ไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีก ที่แอนฟิลด์ 48 นัด ชนะ 38 เสมอ 10
*ออกตัว 15 นัด ชนะ 14 เสมอ 1 นำแมนซิตี้ 11 แต้มต่อไป แน่นอนว่า…เป็นชัยชนะในเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ อีกเกม 20 ปีละที่ชนะ ทอฟฟี 11 เกม

    การนำจ่าฝูงยาวไปบบนี้เรื่อยๆ ทำให้ผู้ตาม “รอ” อย่างเดียว ตอนนี้มีเลสเตอร์ และแมนฯซิตี้ ที่ไล่ตามไปเรื่อยๆ ในตาราง

นี่ยิ่งทำให้ทีมเจเค ยิ่งต้องระวังตัวมากขึ้น โฟกัสต้องไม่หลุด โดยเฉพาะการผิดพลาดง่ายๆในเกมรับที่เกิดขึ้น 13 นัด เดือนธันวาคมก้าว

เข้ามาแล้ว มีอีกมากมายหลายเกมให้เล่น

ทั้งสโมสรและพรีเมียร์ลีก (ลีกคัพปล่อยผ่าน) นี่คือสิ่งที่ เจเค ต้องเจอ ผมมองว่าการเริ่มเปลี่ยนนักเตะนัดละสามสี่คนแบบนี้ คือสัญญาณที่ดี

ศักยภาพแนวลึกต้องพร้อมเพื่อไล่เก็บชัยชนะ

รวมทั้งการ “ปรับปรุง” เกมรับเพื่อไม่ให้ช่วงสำคัญของซีซั่นผิดพลาด จนทำให้ออกมากดดันตัวเอง เพราะเกมรุกปีนี้ เด็ดขาด คมกริบ

ถ้าปรับเกมรับ แน่น รัดกุม ไม่พลาดง่ายๆ มีโอกาสติดเครื่องเทอร์โบ แน่นอน

 

คลิกเลย >>> UFABETWINS

อ่านข่าวอื่นๆที่ >>> https://centresuiteinn.com